วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

การเพาะถั่วงอกไว้ทานเอง


การเพาะถั่วงอกทานเอง ภายใน 3 วัน

 

ข้อมูลจาก: 
ArOoy Kw ทดลองทำเอง

การเพาะ ถั่วงอก ทานเอง ภายใน 3 วัน

มีอุปกรณ์และขั้นตอนที่จำเป็นในการเพาะถั่วงอก ดังนี้ … 




1. กล่องพลาสติก 2 กล่อง เอาแบบที่มีตะแกรงรองก้นกล่อง เพื่อให้ถั่วเขียวไม่ต้องแช่น้ำที่รดลงไป 



2. กระดาษทิชชู แบบแผ่นใหญ่และหนา ที่ใช้ซับน้ำมัน ไว้หุ้มตะแกรง เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในกล่องพลาสติก และ ช่วยลดการระเหยของน้ำให้ช้าลง 

3. ถุงดำ เพื่อใช้พรางแสงให้กล่องพลาสติก ใช้ขนาดให้เหมาะสมกับ กล่องพลาสติก ที่จะเพาะถั่วงอก แต่ต้องเจาะรูเล็กๆ ด้านข้างของถุงดำ ข้างละ 8-10 รู เพื่อใช้ระบายอากาศภายในถุง ขณะที่ ถั่วเขียว กำลังเจริญเติบโต



4. ถั่วเขียว ประมาณ 150 กรัม ล้างทำความสะอาด ถั่วเขียว ด้วยน้ำธรรมดา สัก 2 ครั้ง แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ ประมาณ 12 ชั่วโมง ตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้า ใช้น้ำเปล่าแช่ 4 ถ้วย แบ่งเป็น น้ำธรรมดา 3 ถ้วย น้ำร้อน 1 ถ้วย 

*** ปริมาณของ ถั่วเขียว ที่ใช้ ให้เหมาะสมกับภาชนะที่นำมาใช้ "เพาะถั่วงอก" อย่าใส่ให้แน่นมากๆ เกินไป "ถั่วงอก" จะไม่ อวบ สวย  และ งอกง่ายๆ 



5. เทน้ำที่แช่ถั่วเขียวทิ้ง ล้างน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง เทน้ำทิ้งให้หมด แล้วแบ่ง ถั่วเขียว ที่แช่เรียบร้อยแล้ว ออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ใส่ กล่องพลาสติก ที่เตรียมไว้ 2 กล่องนั้น เกลี่ยให้ทั่วๆ กล่อง 

6. จากนั้นก็ รดน้ำ ถั่วเขียว ให้ทั่วๆ เราจะรดน้ำ ถั่วเขียว แค่ เช้า และ เย็นเท่านั้น ระวังอย่าให้น้ำท่วม ถั่วเขียว จะทำให้ถั่วเขียวเน่า และ ไม่งอกอีก ..  



7. แล้วหาที่วาง กล่องพลาสติก นั้น อย่าให้แสงแดด ส่องถึง คุมด้วย ถุงดำ ที่เตรียมไว้ เพื่อใช้พรางแสงให้กล่องพลาสติกด้วย   


ถั่วงอก วันที่ 1


ถั่วงอก วันที่ 2 



ถั่วงอก วันที่ 3 


8. ระวังอย่าลืม รดน้ำให้สม่ำเสมอ ให้ครบ 3 วัน 3 คืน เมื่อรดน้ำเสร็จ ก็อย่าลืม คุมด้วย ถุงดำ เสมอ 



9. เมื่อครบกำหนด 3 วัน 3 คืน แล้ว ก็จะได้ ถั่วงอก  นำมีดคมๆ มาตัดรากถั่วงอก ที่ติดอยู่กับ กระดาษทิชชูหุ้มตะแกรง และ นำ ถั่วงอกที่ตัดรากออกแล้ว ไปแช่น้ำ เพื่อคัดแยก หมวกสีเขียวของถั่วงอก ให้ออกไป 

10. เราก็จะได้ ถั่วงอก ปลอดสารฯ นำไปทำอาหาร ตามใจชอบได้เลย  ถ้าเราเพาะได้มากๆ ก็แบ่งให้เพื่อนๆ หรือ จะนำไปจำหน่ายก็ได้ … :) :D 



11. ถ้าจะเก็บไว้ทานเอง อีกสัก 2-3 วัน ให้นำ ถั่วงอก ใส่กล่องพลาสติก แล้วเทน้ำสะอาดลงไปให้ท่วมถั่วงอก ปิดฝากล่องให้แน่น แล้วนำเข้าตู้เย็น ในช่องธรรมดาที่เก็บผัก ถั่วงอกก็จะสด ไม่ดำ ไม่ช้ำ น่าทานเหมือนเดิม … :) :D 

12. มีผู้รู้บอกว่า ถ้าต้องการถั่วงอก อวบๆ ให้นำของหนักๆ มาทับกล่องที่เพาะถั่วงอก ไว้ ถั่วจะได้ไม่ขยายยาว จึงอ้วนๆ ไว้คราวหน้า จะลองดู นะคะ :) :D   

----- 

ข้อมูลจาก: 
ArOoy Kw ทดลองทำเอง

----- 

ประโยชน์ ของ ถั่วงอก :

จะมีความสำคัญสำหรับใครแค่ไหน ต้องพิจารณาแบบแผนการกินโดยรวมของผู้นั้น

ถั่วงอก เป็นผักชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ ประสานสอดคล้องกับ ผักและอาหารมังสวิรัติอื่นๆ ในทิศทางที่เกื้อต่อสุขภาพโดยรวม

หากผู้ใดมีแบบแผนการกินที่พาเอาแต่อาหารย่อยยาก อาหารมีพิษเข้าร่างกาย  การกินถั่วงอกในบางครั้ง ก็ไม่มีทางแก้ร้ายให้เป็นดี

ถั่วงอก มีโปรตีนสูงกว่าถั่วธรรมดา

ถั่วงอก เป็นผักดั้งเดิมที่รู้จักกันมานานแสนนาน มีลักษณะสีขาว ลำต้นยาวๆ ที่งอกออกมาจากเมล็ดถั่วเขียว

วิธีการปลูก ก็ไม่ยาก สามารถปลูกเองได้ เพียงแค่มีกระกระดาษทิชชู หรือ สำลีที่ชุบน้ำหมาดๆ และโรยเมล็ดถั่วเขียวลงไป รออีกไม่กี่วันก็งอกออกมาเป็น ถั่วงอกแล้ว

เค้าว่ากันว่า ถั่วงอกนั้นถือว่า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอาหารของชาวเอเชีย 

เพราะประเทศแรกที่ เพาะถั่วงอกหัวโต กิน คือประเทศจีน 

คนจีนโบราณ ใช้ถั่วเหลืองเป็นแหล่งวิตามินซี ในฤดูหนาวที่ผักและผลไม้หายาก โดยเฉพาะกะลาสีเรือที่กินถั่วงอก เพื่อช่วยป้องกันรักษาโรค ลักปิดลักเปิด

เห็น ถั่วงอก ต้นเล็กๆ แบบนี้ อย่าคิดว่า ไม่มีคุณค่า

ถั่วงอก มีคุณค่ามากมาย  

เมื่อเรานำถั่วเหลืองมาเพาะเป็น ถั่วงอก จะมีวิตามินซีสูง ส่วนโปรตีนใน ถั่วงอก จะมีมากกว่าถั่วธรรมดาเล็กน้อย นอกจากนั้นก็มี วิตามินบี12 ซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ ถั่วงอกมีธาตุเหล็กที่ร่างกายย่อยง่ายกว่าผักอื่นๆ และ ยังมีวิตามินบี 17 และสารเลซิธิน ที่ช่วยบำรุงประสาท และ การทำงานของสมอง

และ ที่น่าสนใจที่สุดคือ สำหรับหนุ่ม-สาวที่ไม่อยากแก่เร็ว ขอบอกว่าถั่วงอกมีสารต้านความแก่คือ ออซินอน มีคุณสมบัติทำให้ร่างกายไม่แก่เร็วเกินไปก่อนเวลาอันควรและช่วยชลอความแก่อีกด้วย

เนื่องจากว่า ถั่วงอก ให้วิตามินซีสูง การแพทย์จีน จึงนำ ถั่วงอกหัวโต ไปต้มในแกงจืดกิน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขับเสมหะ ทำให้ ปอดโล่ง และ ขับปัสสาวะ

ส่วนโมเลกุลของสารอาหารใน เมล็ดถั่วงอก ในร่างกายเราสามารถเปลี่ยนแปลงไปอยู่ ในลักษณะที่ร่างกายย่อยง่าย โปรตีนถูกย่อยเป็นกรดอะมิโน แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตธรรมดาหรือกลูโคส และไขมันเป็นกรดเรียบร้อยแล้ว ถั่วงอกจึงเป็นอาหารที่ย่อยได้ง่ายมาก

ดังนั้น การรับประทาน ถั่วงอก จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนัก ลดของเสียและสิ่งตกค้างในร่างกาย เมื่อระบบร่างกายไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ก็ทำให้ร่างกายเสื่อมช้า ไม่แก่เร็ว ...        

ขอบคุณข้อมูลจาก : 
http://www.the-than.com/samonpai/P/28.html

-----

จานนี้ แบบถั่วงอกสุกๆ  


แป้งทอด 
คล้ายๆ พาจอน อาหารเกาหลี 

ส่วนประกอบ 
- น้ำเย็น 250 มล.
- น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ ไว้ทากระทะทอด
- แป้งประกอบอาหารสำเร็จรูป ขนาด 150 กรัม 1 ซอง
- เห็ดหิมะ 150 กรัม ล้างสะอาด ซับน้ำให้แห้ง ตัดชิ้นเล็กๆ
- เห็ดนางฟ้า 150 กรัม ล้างสะอาด ซับน้ำให้แห้ง ตัดชิ้นเล็กๆ
- เห็ดโคนหลวง 150 กรัม ล้างสะอาด ซับน้ำให้แห้ง ตัดชิ้นเล็กๆ
- กุ้งสด XL ของ CP ขนาด 200 กรัม 1 แพ็ค ล้างสะอาด ซับน้ำให้แห้ง ตัดชิ้นเล็กๆ

ผักเครื่องเคียง
- น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วงอก ประมาณ 500 กรัม
- ต้นหอม 2 ต้น หั่นเป็นท่อนๆ
- พริกขี้หนูสีแดง 3 เม็ด หั่นเฉียงๆ
- น้ำมันหอย ของ CP 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสทอริยากิ ของ CP 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมเจียวสำเร็จรูป ขนาด 20 กรัม ไว้โรยหน้า

ส่วนผสมน้ำจิ้ม 
- ค็อกเทลซอส ของ CP 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสพริก ของ CP 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูแห้งทอด ถ้าชอบเผ็ดมากๆ ก็เติมตามชอบ


วิธีทำ
ผสมน้ำจิ้ม เตรียมไว้ก่อน

ผัดผักเครื่องเคียง ที่เตรียมไว้ ไม่ต้องใส่น้ำมัน

ผสมแป้ง กับน้ำเย็น คนให้เข้ากัน แล้วจึงนำ กุ้ง เห็ดหิมะ เห็ดโคนหลวง และ เห็ดนางฟ้า ลงคลุกกับแป้งให้ทั่วๆ ใช้กระทะ แบบเคลือบผิว ช่วยให้อาหาร ไม่ติดกระทะ ทาน้ำมันที่ พื้นผิวกระทะบางๆ พอกะทะร้อน ก็ตักทอดที่ละน้อยๆ แป้งจะได้กรอบๆ ทานกับผักเครื่องเคียง ตักน้ำจิ้มราดตามชอบ

ถ้าแพ้กุ้ง ก็ผสมแต่เห็ดต่างๆ แล้วทอด ก็อร่อยเหมือนๆ กัน


ทานคล้ายๆ กับอาหารแป้งทอดของเกาหลี ที่เค้าเรียกว่า พาจอน


แค่นี้ ก็อิ่มอร่อยได้แล้ว   :) :D



... พิซซ่าเกาหลี คล้ายๆ หอยทอดของไทย เหมือนไข่เจียวทะเล ใส่ต้นหอมหั่นยาว ใส่พริกลูกโตๆ ลองนึกเนื้อหอย กุ้ง ปลาหมึกแน่นๆ กับไข่เจียวกรอบๆ จิ้มกับแจ่ว อร่อยมาก

เขาเรียกว่า "พาจอน" หรือ พิซซ่าเกาหลี คนเกาหลีจะรู้สึกภูมิใจ ที่เวลาใครนึกถึงพิซซา ต้องมีชื่อ พาจอน รวมอยู่ในลิสต์เมนูเสมอ

พาจอน มีส่วนผสมของ แป้งข้าวเหนียวกับไข่ไก่ และ เครื่องต่างๆ ที่นิยมใส่ จะเป็นอาหารทะเลพวก กุ้ง ปลาหมึก หอย และ ที่ขาดไม่ได้ก็คือต้นหอม อวบๆ สดๆ ตัดครึ่ง 2 ท่อน คลุกเคล้ากับแป้ง และ เครื่องต่างๆ ที่เตรียมไว้

พิซซา ที่เรากินตามฟาสต์ฟู้ดทั่วไป จะอบในเตาถ่าน หรือเตาแก๊ส แต่พิซซาเกาหลี นิยมทอดในกระทะไฟร้อน ใช้น้ำมันทอดน้อยมาก แค่ไม่ให้ส่วนผสมติดกระทะเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วไม่ถึงกับเป็นการทอดแต่น่าจะ เรียกว่าจี่น่าจะถูกต้องกว่า จี่แป้งให้สุกทั้ง 2 ด้าน มีรอยไหม้เล็กน้อยเพิ่มความสวยงาม ยกเสิร์ฟร้อนๆ คู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด ซีอิ๊วเกาหลีผสมน้ำส้มและงาขาว บางทีอาจเติมพริกป่นด้วย ซึ่งรสชาติของพาจอนนั้นจะไม่เข้มข้นมาก แต่ไม่ถึงกับจืดชืด ตัวแป้งไม่หนา ไม่กรอบ แต่เหนียวนุ่ม สำหรับคนที่ไม่ชอบต้นหอมอาจจะไม่ถูกปาก เพราะกลิ่นฉุนของต้นหอมนั้น ค่อนข้างแรง แต่สำหรับคนที่ชอบ ต้องบอกได้คำเดียวว่า อร่อยมากๆๆๆ :-D:-D

จานนี้ แบบถั่วงอกดิบๆ กรอบๆ